กรณีป้าขอทานชาวกัมพูชา ป่วนด่านคลองลึก ด่าเจ้าหน้าที่ไทย ถูกเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว จับกุมข้อหาหลบหนีเข้าเมือง หลังไม่มีเอกสารแสดงตนและเจ้าหน้าที่ ตม.ปอยเปต ไม่อนุญาตให้ข้ามแดนช่วงอนุโลม โดยกองกำลังบูรพาสรุปยอดการผ่านแดนห้วงอนุโลม พบว่า มีคนไทย ขาเข้า ด้วยพาสปอร์ต 78 คน บอเดอร์พาส 26 คน รวม 104 คน ,คนกัมพูชา ขาออก ด้วยพาสปอร์ต 230 คน บอเดอร์พาส 492 คน รวม 722 คน ขณะที่นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เตรียมลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ช่วงสายวันนี้
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีของป้าตัวตึง ซึ่งเป็นขอทานชาวกัมพูชาที่ป่วนด่านคลองลึก โดยมีการด่าทอเจ้าหน้าที่ทหารและ ตม. ว่า “ถ้าไม่เปิดด่าน จะนอนตรงนี้ จะอึตรงนี้” ที่ด่าน หากเจ้าหน้าที่ไทยไม่ยอมให้ข้ามแดนกลับบ้าน ล่าสุด โดนเจ้าหน้าที่ ตม.ไทยจับกุมตัวแล้ว ข้อหาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยให้การยอมรับว่า เข้ามาขอทานนานแล้ว ตอนนี้มาทำงานแม่บ้าน
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเวลา 20.45 น. หญิงสาวกัมพูชาชุดดำ ที่พิการแขนด้วน ซึ่งเป็นแนวหน้าที่เป็นแกนนำ ในการลุกฮือประท้วงเจ้าหน้าที่ไทย ได้ถูกเจ้าหน้าที่ ตม.สระแก้ว จับฐานลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเจ้าตัวแจ้งว่า ภาพขอทานที่ถูกแชร์ในโซเชียลชุดมาแฉ เป็นตัวเองจริง แต่เป็นภาพเก่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนนั้นก็เข้ามาขอทาน ย่านเพลินจิต กทม.
ทั้งนี้ หญิงชาวกัมพูชารายนี้ ซึ่งต้องการให้เปิดด่าน ที่จุดผ่านด่านบ้านคลองลึก จ.สระเเก้ว เมื่อวานนี้ ยังบอกอีกว่า ตอนนี้เลิกเลิกเป็นของทานแล้ว มาประกอบอาชีพรับจ้างเป็นแม่บ้าน ที่ย่านบางกะปิ โดยเจ้าหน้าที่ ตม.ได้คุมตัวหญิงรายนี้ไว้ เพื่อดำเนินคดีและดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน หลังเกิดกรณีดังกล่าว มีคนไทยและผู้ติดตามข่าวดังกล่า ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ระบุว่า จำหนังหน้าไว้ เนรคุณ แผ่นดินไทย แถมลักลอบเข้า แต่ตรูซ่า อวดเลี่ยม คุกไปเลย และ รอจบกระบวนการ ก็เนรเทศ ออก” ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็มีการนำภาพกรณีนี้ไปโพสต์เช่นกัน โดยระบุว่า ประเทศไทยรังแกคนพิการเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ทางกองกำลังบูรพา ได้ออกมาชี้แจงชี้แจงเหตุการณ์ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.ชาวกัมพูชาประมาณ 400 คน มารอข้ามด่านชายแดน เพื่อกลับภูมิลำเนาในประเทศกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้าปรากฎกระแสข่าวจากสื่อโซเชี่ยล ว่าจะมีการอนุโลมเปิดให้ข้ามแดนได้ ซึ่งในเวลาต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาว่า จะผ่อนปรนให้ชาวกัมพูชากลับประเทศไป แต่ฝั่งกัมพูชาแจ้งว่า ผู้ว่าจังหวัดบันเตียเมียนเจย ไม่อนุญาต
และในเวลาต่อมา มีเจ้าหน้าที่กงสุลกัมพูชาประจำประเทศไทย (จ.สระแก้ว) ได้เดินทางมาแจ้งให้ประชาชนขาวกัมพูชาให้ออกจากพื้นที่ก่อน เพราะเจรจาไม่ลงตัว ซึ่งเกิดจากการสื่อสารของฝ่ายกัมพูชาที่เข้าใจคลาดเคลื่อน ทำให้ชาวกัมพูชาเริ่มมีการโวยวาย ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารพราน จึงต้องเข้ามาระงับเหตุ และชี้แจงกับชาวกัมพูชาทราบ ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา ได้มาประสานการปฏิบัติกัน ระดับพื้นที่ พบว่า มีความคาดเคลื่อนในเรื่องมาตราการเปิด-ปิดด่านไม่ตรงกัน ประกอบกับฝ่ายกัมพูชาเดินทางกันมาอย่างหนาแน่น และต้องใช้เวลากลั่นกรอง
กระทั่ง เมื่อเวลา 18.40 น. กองกำลังบูรพาได้อนุโลมให้มีการข้ามแดนห้วงเวลา 19.00-20.30 น ทั้งนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบบริเวณจุดผ่านแดนไทย และกัมพูชาได้ปฏิบัติหน้าที่และตรวจเอกสารตามขั้นตอน จนสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยสรุปยอด การผ่านแดนห้วงอนุโลม ดังนี้ คนไทย ขาเข้า ด้วยพาสปอร์ต 78 คน บอเดอร์พาส 26 คน รวม 104 คน ,คนกัมพูชา ขาออก ด้วยพาสปอร์ต 230 คน บอเดอร์พาส 492 คน รวม 722 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พร้อมคณะ จะเตรียมเดินทางลงพื้นที่ จ.สระแก้ว พรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปภาพรวม ก่อนลงพื้นที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ซึ่งอยู่ตรงข้ามเมืองปอยเปต ของกัมพูชา เพื่อรับฟังปัญหาและให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติภารกิจตามมาตรการปิดด่าน 5 แห่ง และมอบสิ่งของให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.สระแก้ว
โดยกำหนดการของนายกรัฐมนตรี จะเริ่มตั้งแต่ เวลา 09.55 น. ร่วมประชุมหารือมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา ที่ห้องประชุมโสต 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รร.อรัญประเทศ ,11.00 น. ติดตามสถานการณ์บริเวณด่านชายแดน และพบปะประชาชน ณ ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ,13.25 น. พบปะเยี่ยมให้กำลังใจเด็กนักเรียน ที่ ร.ร.ตชด.ประชารัฐบำรุง 1 อ.อรัญประเทศ และช่วงเวลา 14.00 น.เดินทางไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่ ร.12 พัน 3 รอ. ภายในบริเวณค่ายสุรสิงหนาถ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ด้วย.