ปราจีนบุรี ตร.คุมตัวผู้ต้องหาทำร้ายเด็ก 4 ขวบเสียชีวิตทำแผน
จากกรณี เด็กชายกัณฑ์เอนก จันทร์งาม (น้องเก้า) อายุ 4 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่ในกระต๊อบ จากการตรวจสอบตามร่างกาย พบตามลำตัวมีรอยเขียวช้ำ ใบหน้าบวมปูดจนหน้าผิดรูป ทางเจ้าหน้าที่จึงให้หน่วยกู้ภัยนำร่างน้องเก่าส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต นั้น
เมื่อวันที่(22 เม.ย. 68) ความคืบหน้าในคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายรัตน หรือ เอ๋ เป็นคนที่ดูแลเด็กเลี้ยงเด็ก มาทำการสอบสวนตลอดทั้งคืน พร้อมตรวจสารเสพติดพบมีสารเสพติดในร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่
จึงตั้งข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษ พร้อมให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว
ต่อมา พล.ต.ต. เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พร้อมรอง ผบก. ได้เดินทางไปที่ สภ.ระเบาะไผ่ พร้อมเรียกชุดสืบสวนเข้าร่วมประชุม ในการติดตามความคืบหน้าของคดี และสั่งการการดำเนินการสอบสวนและสืบสวนให้สามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของน้องเก้า
หลังจากเสร็จการประชุม ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าจากเคสพบศพเด็กชายอายุ4 ขวบที่เกิดเหตุทาง ผกก. ฝ่ายสืบสวนและร้อยเวรได้ไปร่วมตรวจที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เบื้องต้นเราได้ส่งศพเด็กให้นิติเวชผ่าตรวจศพเด็กโดยละเอียด เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงว่าเกิดจากสาเหตุใด เบื้องต้นทางกายภาพภายนอกเราพบ ตามลำตัวเด็กมีร่องรอยเหมือนถูกทารุณ ลักษณะคล้ายรอยไม้เรียวและรอยฟกช้ำหลายจุด บริเวณใบหน้า สันนิษฐบานเบื้องต้นว่า เด็กน่าจะถูกทำร้ายส่วนสาเหตุในวันที่เด็กเสียชีวิต เด็กอาจจะถูกทำร้ายหรือจากสาเหตุอื่นหรือไม่อย่างไร ต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ เพื่อยืนยันผลการตาย
เบื้องต้น เข้าไปที่เกิดเหตุได้คุยกับคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เขาให้การว่า ก่อนวันเกิดเหตุ เด็กมีอาการท้องเสียปวดท้อง ทางคนในบ้านไม่มีใครพาเด็กไปหาแม่หรือหาหมอ เป็นการปล่อยปละละเลยที่ทำให้เด็กมี อาการป่วย ก็ทำให้เด็กมีร่องรอยอุจจาระเปรอะเปื้อนอยู่ ซึ่งอาจจะสอดคล้องกับให้การเรื่องของเด็กท้องเสีย แต่การท้องเสียจะทำให้เด็กเสียชีวิตได้หรือไม่อย่างไร ต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์เพื่อยืนยันว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงเด็กเสียชีวิตจากสาเหตุใด ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนเราจะสอบเพิ่มเติมเพื่อการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม เบื้องต้นจะเป็นการปล่อยปละละเลยก่อน เรากำลังดูกฎหมาย ส่วนสาเหตุการเสียบชีวิต ต้องดูผลทางการแพทย์ จากเคสนี้ ผู้ที่อยู่ในบ้านก็เกี่ยวกับการตายหมด ตอนนี้ยังระบุเป็นตัวบุคคลไม่ได้ อันนี้ต้องทำการสืบสวนต่อ
เมื่อคืนที่ผ่านมานายต้องตะวันหรือน้องอิง อายุ 18ปีลูกชายนายรัตน ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนทำร้ายร่างกายน้องเก้าขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน จากนั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาตำรวจได้นำตัวนายต้องตะวัน แสงสุวิมล อายุ 18 ปี หรือน้องอิง หรือน้องอิง (ลูกชายนายรัตน)ที่เป็นคนดูแลเด็ก ซึ่งเกรงว่าจะมีแย่งความรักจากพ่อแม่ไปจากตนเอง โดยช่วงสงกรานต์อาศัยจังหวะคนเผลอ ทำร้ายร่างกายน้องหลายครั้ง และกระทั่งได้มาเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา
ขณะทำแผนผู้ก่อเหตุไม่ยอมปริปากพูดใดๆทั้งสิ้นท่ามกลางการอารักขาของตำรวจชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ และกำลังจาก นปพ.ซึ่งมีประชาชนมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเกือบ 20 คน ระหว่างนั้นมีญาติของน้องที่เสียชีวิตมาดูการทำแผนของผู้ก่อเหตุด้วยความโกรธแค้น พยายามที่จะบุกเข้าไปทำร้ายผู้ก่อเหตุ ทางตำรวจเจรจาและกันไม่ให้ก่อเรื่องวุ่นวายขณะทำแผน ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณรอบบ้าน 3 จุดจากนั้นรีบนำตัวออกจากจุดทำแผนทันที
นางศิมนธการ แสงจันทร์
(น้าน้องเก้า)บอกว่าวันที่มาดูการทำแผนรู้สึกแค้นมาก แค้นที่ผู้ต้อง
หาทำร้ายหลานตนเองจนเสียชีวิตแต่ไม่สามารถทำอะไรผู้ก่อเหตุได้ รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคนที่ทำหลานเสียชีวิตจะต้องเป็นนายคนนี้ ถึงแม้ว่าจะมีการแม่น้องเก้าเป็นคนทำร้ายน้องกล้าจนเสียชีวิต ตัวเองไม่เชื่อและหลายคนก็ไม่เชื่อถึงแม้แม่ของน้องเก้าจะเป็นคนพูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ก็ไม่คิดทำลูกเด็ดขาย ขณะเดียวกันแม่ค้าของชำที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกล่าวว่า รู้ข่าวแล้วไม่เชื่อว่าน้องอิงจะเป็นคนทำร้ายเด็กเสียชีวิตตามที่เป็นข่าว เพราะครอบครัวของน้องอิงรวมถึงตัวน้องอิงมาซื้อของที่ร้านเป็นประจำ การพูดการจาของน้องอิงจะมีอัธยาศัยดีมากก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ทองสุข สิงห์พิมพ์
