จ.อุตรดิตถ์ อ.ลับแล เปิดจุุดตรวจจุดสกัด 3 แห่ง เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่2567

จ.อุตรดิตถ์ อ.ลับแล เปิดจุุดตรวจจุดสกัด 3 แห่ง เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่2567

วันที่ 29 ธันวาคม 2566

นายศิวัช ฟูบินทร์ นายอำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ เป็นประธาน เปิดจุดตรวจ จุดสกัดหลัก 3 แห่ง ประกอบไปด้วย จุดตรวจหลักสามแยกวัดพระยืน,สามแยกตลิ่งต่ำ ใกล้กลับโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 5 (วัดตลิ่งต่ำ) แยกหน้าพระศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เพื่อเป็นการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุ ทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2566-วันที่ 4 มกรคม2567 โดยมี พันโท อรรคพล เมธังกูร ผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 20 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 21 ค่ายพระศรีพนมมาศ  พ.ต.อ.เจริญ แดงเรือง ผกก.สภ.ลับแล  พ.ต.อ.ชนะชัย แสงศิริ ผกก.สภ.ด่านแม่คำมัน  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ตำรวจ ทหาร นายกเทศมนตรีเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. รพ.สต. หน่วยกู้ภัยเข้าร่วมงานดังกล่าว

นายศิวัช ฟูบินทร์ นายอำเภอลับแล ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอำเภอลับแล กล่าวว่า ทางคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้ใช้ ชื่อการรณรงค์ว่า “”ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ได้เปิดจุดตรวจ /ด่านตรวจร่วมและจุดบริการประชาชน จุดตรวจหลักและจุดตรวจรอง ในการปฏิบัติการอำนวยความสะดวกให้แก่ราษฎรที่สัญจรไปมา เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปึเก่าต้อนรับปีใหม่และให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  จึงได้การกำหนดตัวชี้วัดการดำเนินงาน แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ระดับภาพรวม ระดับหน่วยงาน และระดับพื้นที่ สำหรับการดำเนินการช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ตัอนรับปีใหม่2566- 2567 โดยมีมาตรการดำเนินการ 5 มาตรการ ได้แก่

 

1) ด้านการบริหารจัดการ อาทิ จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลทุกระดับ มาตรการลดปัจจัยเสี่ยงโดยใช้แนวทางการจัดทำ “ประชาคมชุมชน/หมู่บ้าน” และการจัดกิจกรรมทางศาสนา

2) ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม อาทิ กำหนดให้ถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกเส้นทางเป็นถนนปลอดภัย แก้ไขปัญหาการเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางร่วม ทางแยก

3) ด้านลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ อาทิ กำกับ ควบคุม ดูแลรถโดยสารสาธารณะ ให้ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด

4) ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย อาทิ รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมาย

5) ด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ อาทิ จัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน

 

นาคา คะเลิศรัมย์/รายงาน

Related posts