ชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโก-ลกในเขตอำเภอแว้งตรึงกำลังตามแนวชายแดนป้องกันการลักลอบหนีเข้าเมืองในห้วงก่อนเทศกาลฮารีรายอ
ระดับน้ำในคลองบูเก๊ะตา อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาสลดลงจนสามารถเดินเท้าข้ามแดนจากมาเลเซียกลับประเทศไทย ทำให้ในห้วงก่อนเทศกาลฮารีรายอ อาจมีบุคคลลักลอบเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพื่อกลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอกับครอบครัวใน3จังหวัดชายแดนภาคใต้
ล่าสุดร้อยเอกทรงพล อัครวิเนค ผู้บังคับกองร้อยป้องกันชายแดนที่1 รับผิดชอบตามแนวชายแดนพื้นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ได้จัดกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรึงพื้นที่ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ระยะทาง 48 กิโลเมตร ตามนโยบายของนายรุสดี ปูรียา นายอำเภอแว้ง ที่มอบหมายให้ทุกหน่วยกำลังร่วมเฝ้าระวังป้องกันคนไทย และบุคคลต่างสัญชาติที่อาจลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะในห้วงเทศกาลฮารีรายอ ที่คนไทยส่วนหนึ่งในประเทศมาเลเซียลักลอบเข้ามาโดยไม่กักตัว เพราะจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างหากบุคคลดังกล่าวนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาติดบุคคลในครอบครัวและบุคคลใกล้ชิด อีกทั้งในขณะนี้ยังพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย และแอฟริกาใต้ ที่ส่งผลให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง ติดง่ายขึ้นและอาจทำให้มีอาการป่วยที่รุนแรงขึ้น
ดังนั้นจึงขอเตือนให้คนไทยในประเทศมาเลเซีย เดินทางกลับประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายด้วยการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ของกระทรวงการต่างประเทศ หรือติดต่อขอรับความช่วยเหลือผ่านศูนย์กดำรงธรรม สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย และในกรณีลักลอบเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ประจำอยู่ตามแนวชายแดน เพื่อเข้ากระบวนการคัดกรองและกักกัน โดยเสียค่าปรับข้อหาหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ส่วนผู้นำพาหากถูกจับจะถูกดำเนินคดีโทษทั้งจำและปรับ เพราะฝ่าฝืนมาตรการควบคุมและป้องกันโควิด-19
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน
