ผู้ว่าฯขอนแก่น สั่งทุกหน่วยงานช่วยเหลือ “น้องเอิญ” พนักงานปั้มน้ำมันที่ถูกกระบะพุ่งชนอาการสาหัสอย่างเต็มที่

ผู้ว่าฯขอนแก่น สั่งทุกหน่วยงานช่วยเหลือ “น้องเอิญ” พนักงานปั้มน้ำมันที่ถูกกระบะพุ่งชนอาการสาหัสอย่างเต็มที่ ย้ำชัดคนผิดต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่การช่วยเหลือทุกฝ่ายต้องรวดเร็ว ขณะที่ครอบครัวสบายใจหลังพ่อเมืองเอาจริงไม่ทอดทิ้งชาวบ้าน วอนคนขับมาแสดงความรับผิดชอบ

จากกรณีที่ น.ส.เอิญกนก ดวงทองทิพย์ อายุ 19 ปี พนักงานบริการลูกค้าสถานีบริการน้ำมันชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริม ถ.มะลิวรรณ ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกรถยนต์กระบะพุ่งชนจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ขณะไล่สุนัขที่มาก่อกวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุไม่แสดงความรับผิดชอบ ขณะที่่ครอบครัวเข้าแจ้งความกับเจ้ากน้าที่ตำรวจก็ถูกระบุว่าให้มาตามคดีในอีก 4 เดือน จึงตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมก็ไม่มีเจ้าหน้าที่มารับเรื่อง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 6 พ.ค.2564 นายธีระศักดิ์ โฉมศิริ นายอำเภอบ้านฝาง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายณัฐพล พลีศักดิ์ นิติกรปฏิบัติการประจำศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น นำคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น( พมจ.) รวมทั้งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด ลงพื้นที่เพื่อพบกับ น.ส.เอิญกนก ที่บ้านเลขที่ 41 ม.6 บ.โนนสะอาด ต.ป่าหวายนั่ง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น โดยมีคนในครอบครัว รวมไปถึงผู้นำชุมชน ร่วมพูดคุยและสอบถามข้อเท็จจริงใสเรื่องที่เกิดขึ้น

โดยทางเจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้ทำการแจ้งสิทธิ์ของผู้เสียหายหรือผู้บาดเจ็บ ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทน ให้กับ น้องเอิญ และพ่อแม่ได้ทราบ รวมทั้งแนะนำให้มีการจัดเตรียมเอกสาร ใบรับรองแพทย์, รายละเอียดการรักษาพยาบาลของรพ. เพื่อนำไว้เป็นหลักฐานในการที่จะยื่นขอใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทน ที่เกิดความเสียหาย เกิดขึ้นจากหรือเนื่องจากมีการกระทำความผิดอาญาของผู้อื่น

ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น หรือ พมจ. ได้เข่ามาดูแลในเรื่องสิทธิต่างๆของคนเจ็บซึ่งเป็นพนักงานหน้าลานภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าวว่าได้รับเงินเดือนครบหรือไม่ หากไม่ครบก็จะประสานให้ทางบริษัท มีการจ่ายให้ครบ และชดเชยให้คนเจ็บตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานด้วย รวมถึงหากจับกุมรถและคนขับรถคันที่ชนน้องเอิญได้ ก็จะตรวจสอบ พรบ.รถยนต์ เพื่อให้น้องเอิญได้รับการคุ้มครองดูแลจาก พรบ.ดังกล่าวด้วย และให้พ่อแม่ เดินทางเข้าประสานงานกับ รพ.ขอนแก่น เพื่อขอใบรับรองแพทย์กรณีที่น้องเอิญบาดเจ็บยังไม่สามารถกลับเข้าทำงานได้

นายณัฐพล พลีศักดิ์ นิติกรปฏิบัติการประจำศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นนั้น ไม่มีการปฏิเสธ การรับเรื่องจากประชาชน แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน เนื่องจากฝ่ายพ่อแม่คนเจ็บ แจ้งว่าได้มีการแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านเป็ดแล้ว เจ้าหน้าที่จึงอธิบายว่า เมื่อแจ้งความแล้ว ก็ควรจะรอเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามหน้าที่ ส่วนความคืบหน้าของการทำงานในคดีต่างๆนั้น อาจจะใช้เวลามากน้อยไม่เท้ากัน บางคดีอาจจะ 3-4 เดือน หากไม่มีอะไรคืบหน้าให้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งในจุดนี้อาจจะไม่มีความเข้าใจกัน

นายธีระศักดิ์ โฉมศิริ นายอำเภอบ้านฝาง กล่าวข่าว ภายหลังนำคณะเข้าพบปะพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งเรื่องดังกล่าวนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ไม่ได้นิ่งนอนใจและยอมไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จึงได้สั่งการให้อำเภอบ้านฝาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่มาพบกับคนเจ็บและครอบครัว เพื่อพูดคุยในด้านต่างๆ ว่าจะช่วยเหลือกันอย่างไรบ้าง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดขัดหรือบกพร่องในจุดใด ซึ่งทุกหน่วยงานได้ทำความเข้าใจกับทางคนเจ็บและครอบครัวจนเป็นที่เข้าใจแล้ว มในส่วนทางคดี ตำรวจสภ.บ้านเป็ดก็ดูแลเรื่องคดีและสืบสวนหารถกระบะคันดังกล่าว แต่ยังไม่ได้รายละเอียด เนื่องจากเห็นเฉพาะด้านข้างของรถไม่เห็นทะเบียน ซึ่งต้องมีการสืบสวนกันต่อไป และขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย หน่วยงานที่เกี่ยวทุกส่วนไม่ได้ทอดทิ้ง เมื่อทราบเรื่องก็รีบมาให้การช่วยเหลือทันที

ขณะที่ นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อดำเนินการแจ้งสิทธิค่าตอบแทนผู้เสียหายใน คดีอาญา ตาม พ.ร.บ ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ซึ่งสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น ได้มอบเอกสารในการยื่นคำขอฯ สำนักงานฯ ให้ผู้เสียหายกรอกคำขอฯ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนฯ และจะนำมายื่น ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่เกิดเหตุ

“จากการวิเคราะห์เบื้องต้น คดีนี้ผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ กรณี ความผิดต่อร่างกายจราจาร คือ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ไม่เกิน 40,000 บาท,ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่จังหวัด ไม่เกิน 365 วัน จ่ายตามจริง,ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท รวมเป็นเงินประทมาณ 208,625บาท ในส่วนของคดีและการติดตามรถคันที่ชน น้องเอิญคนเจ็บนั้น ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านเป็ด ได้ลงพื้นที่ ตรวจที่เกิดเหตุ และสอบสวนชาวบ้านและพนักงานปั๊มน้ำมัน แต่ไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ จึงได้ไล่ตรวจกล้อวงวงจรปิด ตามร้านค้าที่อยู่ริอมถนนเพื่อหาเบาะแสรายละเอียดของรถคันดังกล่าว ซึ่งในเรื่องนี้ได้กำชับทุกหน่วยงานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเข้มงวด เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดความรับผิดชอบของผม”

ขณะที่ นายบุญช่วย ดวงทองทิพย์ บิดาของน้องเอิญ รวมทั้งคนในครอบครัว ต่างพากันยกมือไหว้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ลงพื้นที่มาในครั้งนี้ พร้อมทั้งกล่าวว่า พอใจและหายวิตกกังวลใจบ้างแล้ว หลังจากที่ทราบว่า ผวจ.ขอนแก่น สั่งให้หน่วยงานต่างๆมาช่วยเหลือดูแล ขณะนี้ไม่ติดใจกับคำพูดของเจ้าหน้าที่แล้วส่วนทางคดีก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนหารถคันดังกล่าวต่อไป

ด้าน น้องเอิญ กล่าวว่า ขอบขอบคุณในการให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ แต่ก็ยังวิตกกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัว เพราะเชื่อว่าตัวเองต้องถูกให้ออกจากงาน เพราะขาดงานมานานแล้ว จึงห่วงในเรื่องของค่าใช้จ่ายของน้อง 2 คนกำลังจะเปิดเทอม พ่อ-แม่ ไม่มีเงินให้น้องไปเรียนหนังสือ จึงวิตกเป็นอย่างมาก สมองก็ได้รับการกระทบกระเทือนจึงอยากให้คนขับรถมาแสดงความรับผิดชอบ ใช้สิทธ์ประกันรถยนต์ที่ตนเองควรจะได้รับเพราะ ครอบครัวไม่ได้เรียกร้องอะไรมากไปกว่านี้

Related posts