อุทัยธานี-หนุ่มงอลแม่ควบจย.พาลูกหนี

อุทัยธานี-หนุ่มงอลแม่ควบจย.พาลูกหนี ไม่พอใจเจ้าหน้าที่เตือน จูงมือลูกหิ้วกระเป๋าเดินเท้าจะไปกรุงเทพฯ แม่เป็นห่วงหลาน หวั่นหลานได้รับความลำบาก กลายเป็นเรื่องใหญ่ แจ้งเจ้าหน้าที่มาควบคุม บ้านทุ่งนางาม อ.ลานสัก

 

เมื่อเวลา 12.00.น.ของวันที่ 29 เม.ย.64 สถานีตำรวจภูธรลานสักได้รับแจ้งจากแม่ผู้ก่อเหตุพาลูกหนีหวั่นได้รับอันตราย หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่พร้อมสายตรวจป้อมดินแดง รีบรุดมายังที่เกิดเหตุหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว หมู่ 9 ทุ่งนางาม อ.ลานสัก ได้ไปพบกับนางสาวจันทร์หอม แจ้งถิ่นป่า อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 9 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ที่เป็นผู้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าลูกชายของตนเองได้ขับรถจยย.พาหลานวัย 6 ขวบ หนีออกไป จังหวะนั้นได้พบกับนายเปรมชัย ชัยพิพัฒน์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 9 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก ซึ่งเป็นพ่อของเด็กวัย 6 ขวบ มีท่าทีผิดสังเกตุ ได้นำลูกชายซ้อนจยย.หลบหนีแม่ของนายเปรมชัยเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเพื่อทำการพูดคุยกับนายเปรมชัย แต่นายเปรมชัย ไม่ฟังเจ้าหน้าที่ ยังได้ขับรถจยย.พาลูกน้อยหลบหนี เข้าซอยนู้นออกซอยนี้ ซึ่งพฤติกรรมของนายเปรมชัยทำให้เจ้าหน้าที่คาดสงสัยในตัวนายเปรมชัย ยังไม่พอนายเปรมชัยได้จูงมือลูกพร้อมกระเป๋าเดินทางเดินเท้าหนีเจ้าหน้าที่ จึงได้ประสานไปยังฝ่ายปกครองอำเภอลานสัก เพื่อให้มาพูดคุย และทำการเข้าใจ

นายเปรมชัย ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเองพึ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ ได้ 5-6 วัน โดยกลับมาตัวคนเดียว แล้วกลับมาเจอลูกของตนเองที่จังหวัดอุทัยธานี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่เลยนำตัวนายเปรมชัย ประสานไปยังเจ้าหน้าที่อสม.ประจำหมู่บ้าน ให้นำตัวนายเปรมชัยไปตรวจวัดไข้อุณภูมิในร่างกาย เพื่อควบคุมโรคตามมาตราการ โรคแพร่เชื่อของโรคโควิดที่กำลังแพร่ระบาด และตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด เนื่องจากพฤติกรรมของนายเปรมชัยมีการขัดขืนเจ้าหน้าที่ และไม่ฟังเจ้าหน้าที่ ยังมีท่าทีน่าสงสัย เพื่อให้ความปลอดภัยกับเด็กและครอบครัว ผลจากการตรวจนั้น ปรากฏไม่พบสารเสพติดจากตัวนายเปรมชัย

 

จากการสอบถามนางจันทร์หอม แจ้งถิ่นป่า เป็นแม่ของนายเปรมชัยได้กล่าวว่า ลูกชายของตนพาหลานวัย 6 ขวบ ขึ้นจยย.หลบหนีตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองกับลูกชายได้มีเรื่องผิดใจกัน ไม่เข้าใจกัน เรื่องปัญหาครอบครัวก่อนหน้านี้ ต่อมานายเปรมชัยก็โมโหตนเองบอกว่าจะพาลูกไปอยู่กรุงเทพฯ เนื่องจากที่ผ่านมานายเปรมชัยพึ่งเลิกกับภรรยามา แล้วกลับมาอยู่บ้าน ได้เพียง 5-6 วัน แล้วยังเล่าว่า ช่วงที่นายเปรมชัยอยู่กรุงเทพฯเวลานายเปรมชัยทะเลาะกับภรรยา นายเปรมชัยก็จะแอบไปนอนตามศาลาข้างทางอยู่เป็นประจำ ตนเองหวั่น ว่าหากนำหลานของตนเองไปอยู่ต่างจังหวัดด้วย จะทำให้เด็กไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง และไม่มีกิน เนื่องจากตัวนายเปรมชัย ยังไม่มีงานทำ กลัวว่าจะอดตายด้วยกันทั้งเด็กและนายเปรมชัย จึงวอนให้เจ้าหน้าที่มาช่วยห้ามปรามในครั้งนี้

 

ภาพ-ข่าว ภาวิณี ศรีอนันต์ รายงาน

 

 

Related posts