นนทบุรี ชาวบ้านโวยผักตบชวาปิดขวางทางน้ำสัญจรไม่ได้นานกว่า 3 เดือนไร้หน่วยงานช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 17.00.น.วันที่ 29 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณริมคลองบางบัวทองหมู่1ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มีชาวบ้านกว่า 10 คน ร้องเรียนว่าผักตบชวาจำนวนมาก ขึ้นเต็มลำคลองกีดขวางการสัญจรเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ตั้งเเต่หน้าหมู่บ้านอักษรายาวมาถึงสะพานหมู่บ้านชัยพฤกษ์ ซึ่งคลองมีความกว้างประมาณ 25 เมตร น้ำลึกประมาณ 6 เมตร ซึ่งชาวบ้านเคยแจ้งเรื่องไปยังหน่วยงานกรมชลประทานเเล้วแต่ผ่านมา 3 เดือนยังไม่คืบมีความคืบหน้า ทำให้ผักตบชวามีเพิ่มขึ้นเเละหนาแน่นจึงทำให้ใช้เรือสัญจรไปมาไม่ได้ และน้ำเสียมีสีดำเเละส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเเละส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
นายเทพประทาน ปรางทา อายุ 27 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไปกว่าวว่าย้อนไปประมาน 3 เดือนที่เเล้วในคลองไม่มีผักตบชวาเลยเเละเรือสามารถสัญจรไปมาตามปกติ ซึ่งเเจ้งหน่วยงานต่างๆไปก็เพิกเฉย เกี่ยงกันว่าเป็นคนละฝั่ง ซึ่งตอนนี้ตนไม่สามารถใช้เรือขับไปมาได้เลย จึงต้องเเขวนเรือไว้ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายต่อเรือได้เพราะตนทำเรือมาประมาณ 1 เเสนบาทเป็นไม้สักจอดทิ้งไว้นานๆอาจจะมีสัตว์ต่างๆเข้ามาทำรัง เเละเครื่องเรืออาจจะเสียหายได้ จึงอยากให้หน่วยงานเข้ามารับผิดชอบโดยเอาผักตบชวาออก ซึ่งเเต่ละบ้านจะมีรายได้เสริมคือเก็บผักบุ้งขาย ตั้งเเต่มีผักตบชวาเข้ามาทำให้เเต่ละบ้านรายได้ขาด ถ้าไม่มีผักตบชวาเลยชาวบ้านจะมีรายได้จากการเก็บผักบุ้งวันละ 300 บาทเเต่ตอนนี้ไม่มีรายได้จากตรงนี้เเล้ว
นายทองเริ่ม พิรมณ์รักษ์ อายุ 72 ปี เล่าว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้บอกกับตนว่าบ้านตนเดือดร้อนเเค่บ้านเดียวจึงไม่เข้ามาดำเนินเรื่องให้ซึ่งทุกๆวันนี้ตนต้องลงไปเก็บขยะใต้ถุนบ้านทุกวัน มีทั้งถุงขยะ เเละเศษขวดลอยเข้าบ้านจึงต้องใช้เรือพลาสติกเเละตนต้องลงน้ำเน่าเพื่อโยนขยะขึ้นเรือเเละนำไปทิ้ง เเละต้องรีบขึ้นมาล้างตัวเพราะคันตัวมาก ในน้ำมีความสกปรก ตนเคยยื่นเรื่องไปเเล้วเเต่ไม่มีใครสนใจเเละบริการต่อตนไม่ดี ตนจึงฝากคนอื่นไปยื่นเรื่องเเทนเเต่ก็ไม่มีความคืบหน้า
นายเดช เรืองศรี อายุ 65 ปี อาชีพทำสวนอาศัยอยู่ริมคลองฝั่งตรงข้ามกล่าวว่า ตนอาศัยอยู่จำนวน 4 คนที่บ้านเเละมีเด็กอีก 2 คน ซึ่งตนจะใช้เรือผ่ากองผักตบชวาข้ามฝั่งมาทุกวัน เพราะตนขับรถไม่เป็น เเละทุกวันที่ข้ามมามีความลำบากอย่างมาก ก่อนหน้านี้เราพายเรือมาได้ปกติไม่ลำบาก จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บเพื่อความสะดวกในการเดินทางในเเต่ละวัน
นางวิรัลทิพย์ สังเวียน อายุ 54 ปี อาชีพเเม่บ้าน กล่าวว่า ปกติตนใช้น้ำรดน้ำต้นไม้ก็ใช้ไม่ได้เเล้ว จะตัดเก็บผักบุ้งไปขายก็ไม่มีเเล้ว ซี่งใช้ทางสัญจรทางน้ำไม่ได้เลย เเละทุกๆครัวเรือนเดือดร้อนกันหมดเส้นนี้มีประมาณ 138 ครัวเรือนอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาเก็บผักตบชวาออกเพราะคนในชุมชนเดือดร้อนกันจริงๆ
น.ส สุภาพร จีนอ่อน อายุ 54 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป เล่าว่า ตนเป็นหนึ่งเสียงของตัวเเทนหมู่บ้าน จากคลองที่เคยมีน้ำเเละสัญจรไปมาได้ตอนนี้ใช่ไม่ได้เเล้ว ซึ่งพระมาบิณฑบาตจากวัดสิงห์จะเข้ามาภายในเเต่เข้าไม่ได้ต้องวนเรือออก เเละทำให้น้ำเสียซึ่งปกติถ้ามีการซื้อของเราจะใช้เรือในการขนของอยู่ตลอด ซึ่งตอนนี้เราไม่สามารถใช้เส้นทางเรือได้เลย ร้องหน่วยงานไหนก็บ่ายเบี่ยง ตนจึงต้องอาศัยโอกาสที่มีฝนตกเยอะๆให้ประตูทางน้ำเปิด ผักตบชวาจะได้ไหลออกไปบ้างเเละมีการกั้นน้ำเเละติดป้ายไว้เป็นเขต เขียนว่าเขตปลอดผักตบชวา ซึ่งไม่มีความรับผิดชอบเเต่อย่างใด ซึ่งผักตบชวาโตขึ้นเร็วมาก เเละผักบุ้งที่เคยเก็บกินก็ล้มตายหมด ซึ่งตอนนี้ทุกคนลำบากกันหมดถ้าบ้านไหนมีคนป่วยเราจะใช้เส้นทางเรือไม่ได้เลย ทางชาวบ้านได้ทำทุกวิธีทางเเล้วเเต่เงียบมาจนถึงทุกวันนี้
ภาพ-ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน
ผู้สื่อข่าวนนทบุรี