จับเพื่อนบ้านสุดแสบปีนฝ้าทุบกำแพงมุดเข้าบ้านข้างๆก่อเหตุลักทรัพย์นานเกือบ2ปีรวมมูลค่ากว่าสองแสนบาทเจ้าของบ้านเจ้าของบ้านเผยกว่าจะรู้ตัวทรัพย์สินแทบหมดบ้าน
***เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน นางสาว ภัททิญา ฉิมหัวร้อง เจ้าของบ้านพักทาวน์โฮม หลังหนึ่งในหมู่บ้านนิรันดร์วิลล์ 12 หมู่ ที่ 10 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พาผู้สื่อข่าวเราขึ้นไปดูบริเวณฝ้าภายในห้องน้ำชั้นสองของตัวบ้าน ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุที่ถูก นายภานุวัฒน์ หรือโน่ แก้วมูล อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาแถมยังเป็นเพื่อนบ้านหลังติดๆกันอีกด้วย ปีนมุดฝ้าทุบกำแพงใต้หลังคาเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์สินไปหลายรายการนานเกือบสองปี
นางสาว ภัททิญา ผู้เสียหาย เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองมาซื้อบ้านหลังนี้พักอาศัยได้ประมาณ 3 ปี หลังจากนั้นประมาณ ปีเศษ ก็มีเพื่อนบ้านเข้ามาพักอาศัย ก็ไม่ได้เอะใจอะไรและมีการพูดคุยทักทายกันตามประสานเพื่อนบ้านตามปกติ มาในระยะหลังทรัพย์สินภายในบ้านเริ่มหายในช่วงที่ตนเองและสามีไม่อยู่บ้าน แต่กลับไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ กุญแจที่ล็อกประตูทางเข้าออกบ้านก็ปกติ ครั้งแรกจึงตัดสินใจเปลี่ยนแม่กุญแจที่ล็อกประตูเหล็กดัดและประตูรั้ว แต่แล้วก็ถูกก่อเหตุซ้ำอีกโดยไม่มีร่องลอยการงัดแงะแต่อย่างใด จนต้องมีการเปลี่ยนจุลแจถึง 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติภายในบ้าน จึงมีการนำเอากล้องวงจรปิดมาติดตั้งภายในบ้านก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติอีก แต่ทรัพย์สินภายในบ้านกลับสูญหายแบบไร้ร่องรอย จนทำให้เกิดความเครียดมานานเกือบปี เครียดจนเกือบมีปัญหาทางครอบครัวเพราะคิดว่าอาจเป็นคนในบ้านที่ก่อเหตุ แต่ก็พักอาศัยกับสามีเพียงสองคน และตนเองมันใจว่าสามีไม่หน้าจะก่อเหตุเพราะอยู่บ้านด้วยกันตลอดหากจะออกไปนอกบ้านก็จะออกไปด้วยกันทุกครั้ง จนมาล่าสุดเมื่อหลังสงกรานต์ที่ผ่านมาหลังจากที่ตนเองกลับต่างจังหวัดพอเดินทางกลับมาบ้านถึงกับเข่าอ่อนเพราะถูกก่อเหตุทรัพย์อีกจนทรัพย์ที่เก็บสะสมไว้ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอทองคำ พระเลี่ยมทอง พระเลี่ยมทองฝังเพชร แหวนทองคำ กระปุกออมสิน และอื่นๆอีกหลายรายการรวมมูลค่ากว่าสองแสนบาทหายไปอีกครั้ง
ด้วยความที่ตนเองมั่นใจว่าทั้งเปลี่ยนกุญแจก็แล้วติดตั้งกล้องวงจรปิดตามมุมอับก็แล้วไม่พบสิ่งผิดปกติและเมมโมร่การ์ดของกล้องถูกถอนหายไปหนึ่งตัว ประกอบกับที่พื้นห้องน้ำชั้นสองพบคราบสีดำและเศษปูนของฝ้าตกที่พื้นในตำแหน่งเหนือช่องฝ้าที่เปิดได้ จึงนำบันไดมาปีนถอดฝ้าเข้าไปดูแรกๆก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆแต่พบฉายไฟสังเกตดีๆพบว่ากำแพงปูนที่มีการก่อกำแพงจากคานปูนถึงใต้หลังคามีบางจุดที่พบรอยแตกร้าวผิดปกติจึงตัดสินใจคลานมุดใต้ฝ้าไปตรวจสอบและพบว่ามีอิฐแดงที่ก่อปิดกั้นระหว่างบ้านข้างเคียงไว้ จึงลองหยิบดูพบว่าอิฐแดงนั้นสามารถยกออกได้และเปิดเป็นช่องโหว่ที่สามารถมุดรอดช่องนั้นได้พอดี จึงลองมุดช่องทะลุอีกฝั่งดูก็พบเศษปูนที่ถูกทุบไว้บนฝ้าเพดานบ้านข้างเคียงและสิ่งหนึ่งที่มั่นใจมากไปกว่านั้นคือไปเจอถุงมือสีฟ้าที่เป็นถุงมือจากบ้านของตนเองจึงมั่นใจว่าถูกบ้านข้างเคียงก่อเหตุ จึงตัดสินใจถ่ายรูปและรีบเดินทางไปแจ้งความที่สภ.บางพลีจนฝ่ายสืบสวนสภ.บางพลีรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุและเชิญตัวผู้ต้องหาที่พักอยู่ในบ้านออกมาสอบปากคำซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงและยึดของกลางได้คืนเป็นบางส่วนภายในบ้านข้างเคียง
นางสาวภัททิญา ยังเปิดเผยต่ออีกว่าก่อนหน้านี้กับเพื่อนบ้านหลังนี้เดิมที่จะมีพ่อแม่และแฟนสาวของผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่ด้วยแต่มาในระยะหลังพากันเดินทางกลับไปอยู่ที่ภาคใต้เหลือเพียงผู้ต้องหาพักเพียงลำพังก่อนหน้านี้ข้างบ้านจะเลี้ยงสัตว์พอเจ้าของบ้านไม่อยู่เราเองในฐานะเพื่อนบ้านยังเคยช่วยดูเลี้ยงสัตว์ให้รดน้ำต้นไม้ให้ และยังเคยทักทายพูดคุยกันตามปกติไม่เคยพบพิรุธหรือต้องสงสัยอะไรเลย หลังทราบเรื่องว่าโจรที่เข้ามาขโมยของในบ้านที่แท้คือเพื่อนบ้านที่เราไว้ใจสุดๆ ถึงกับตกใจและไม่คิดว่าจะกล้าลงมือทำกันได้ หนำซื้อการก่อเหตุดูเป็นมืออาชีพมากหากไม่สังเกตจะไม่รู้เลยว่าคนร้ายทุบกำแพงใต้ฝ้าเข้ามา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้พร้อมกับของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาลักทรัพย์ในยามวิการ บุกรุกเคหะสถานในยามวิการ และทำร้ายสิ่งกีดขวางในยามวิการเพื่อก่อเหตุลักทรัพย์
*** ภาพ – ข่าว ก๊วก สมุทรปราการ ***