เจ้าของตลาดนัดรถไฟ ยืดอกรับผิด เดินทางไกล่เกลี่ยพ่อค้า แม่ค้าแล้ว ลงบันทึกประจำวัน ขอประวิงเวลาจ่ายคืน 2 เดือน
จากกรณีที่ มีกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า กว่า 40 คน ที่เข้าไปจองล็อคแผงตลาดนัดรถไฟ ศรีราชา ไนท์บาร์ซ่า ของบริษัท เจริญทรัพย์สมบูรณ์ จำกัด ตั้งอยู่ที่บริเวณริมถนนทางรถไฟหัวโกรก ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยมีนายชนม์นิภา ยี่สุภา และนายเฉลิมชนม์ กันธิพันธ์ เป็นกรรมการบริษัท ถูกโกงค่าจองล็อคไป และไม่สามารถติดต่อขอเงินคืนได้ จึงได้มีการรวมตัวกันมาพบ พ.ต.ต.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.สอบสวน สภ.ศรีราชา เพื่อดำเนินร้องทุกข์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2564
ล่าสุดวันเดียวกัน ที่บริเวณห้องประชุม ชั้น 4 สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ทางด้าน นายเฉลิมชนม์ กันธิพันธ์ กรรมการบริษัท เจริญทรัพย์สมบูรณ์ จำกัด ตั้งอยู่ที่บริเวณริมถนนทางรถไฟหัวโกรก ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อธิพงษ์ วุฒิวิวัฒนกุล รอง ผกก.สอบสวน สภ.ศรีราชา เพื่อเป็นตัวกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยกับพ่อค้า แม่ค้า ซึ่งใช้เวลาในการพูดคุยเจรจา และไกล่เกลี่ยกันนานกว่า 30 นาที
ด้านนายเฉลิมชนม์ กันธิพันธ์ กรรมการบริษัท กล่าวว่า ทางตลาดนัด ขออภัยกับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ทางบริษัท มีความประสงค์ที่จะจัดทำตลาดนัดจริงๆ แต่ด้วยสภาพการเงินที่มีปัญหาในขณะนี้ ทั้งต้องแก้ไขแบบตลาดนัด 2-3 ครั้ง การกู้เงินธนาคารจึงได้ล่าช้าออกไป จนไม่สามารถดำเนินการได้ ประกอบสถานการณ์โควิด 19 แรงงาน ที่จะมาทำการก่อสร้างก็ไม่มี เนื่องจากซุ่มเสี่ยงติดเชื้อ ในขณะที่จำนวนเงินที่ทางพ่อค้า แม่ค้าจ่ายมานั้น ทางบริษัทได้นำไปเป็นค่าใช้จ่ายแล้ว ประมาณ 1.4 ล้านบาท อย่างไรก็ตามทางบริษัท ขอประวิงเวลาในการจ่ายเงินคืนทั้งหมด จำนวน 2 เดือน เดือนละ 50% ทั้งทางบริษัทอยู่ระหว่างการหานายทุน มาช่วยในด้านการเงินอยู่
ด้าน น.ส.สุขฤทัย บุญเยี่ยม 30 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า จากการพูดคุยเจรจาในเบื้องต้นแล้ว ทางตนเองก็พอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งเหมือนเดินกันคนละครึ่งทาง ระหว่างตลาดและพ่อค้า แม่ค้า ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตลาดไม่สามารถก่อสร้างได้นั้น จากการพูดคุยก็พบว่า มาจากสภาพการเงินที่ไม่เสถียร จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางตลาดยืนยันแล้วว่า จะจ่ายเงินคืนให้กับพ่อค้า แม่ค้า เป็นเวลา 2 เดือน เดือนละ 50% หากไม่มีการชดใช้ตามกำหนด ทางกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป