จากกรณีมีผู้โพสต์ระบุข้อความว่า รู้สึกเศร้าที่ ศูนย์การแพทย์ปัญญานันทภิกขุ ชลประทานมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อดีตข้าราชการตำรวจ ตระเวนชายแดน ตามองไม่เห็นทั้ง2ข้าง โดนรถแท็กซี่ทิ้งจาก รพ ไทรน้อย บอกรถว่าจะมา รพ ชลประทาน โดนรถทิ้ง ผมพามา รพชลประทานให้แล้วทำเรื่องยืดบัตรผู้ป่วยให้แล้ว ที่เหลือใครเป็นญาติพี่น้องมารับด้วยนะครับขอบคุณครับ
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ด้านหน้า รพ.ไทรน้อย พบนายพงศ์กานต์ เละเซ็น อายุ 41 ปี กล่าวว่า วันที่ 30 พ.คที่ผ่านมาในขณะที่ตนขี่รถ จยย.มาส่งภรรยามาทำงาน ไม่ห่างจาก รพ.ไทรน้อยตนพบลุง เดินที่ถนนรถวิ่งแถวหน้า รพ.ไทรน้อยพอตนส่งภรรยาเสร็จตนรีบขี่รถ จยย.กับมาหาลุงลุงเดินไกลมาก จากโรงพยาบาลไป ซึ่งตนไปเจอลุงตรงโรงไฟฟ้า ระยะทางประมาณ 5 กิโลซึ่งลุงเดินเอาไม้เท้าเลาะตามถนนไป ตอนนั้นตนส่งแฟนเสร็จแล้วตนจึงเข้าไปถามว่าจะไปไหน เพราะตนเห็นลุงเดินนานแล้ว ลุงเขาก็บอกว่าจะไป โรงพยาบาลชลประทาน ตนก็บอกว่ามันคนละทางกันแล้ว โรงพยาบาลชลประทานอยู่ปากเกร็ด ลุงก็บอกว่าได้นั่งแท็กซี่มาจากบ้าน แต่แท็กซี่เอาลุงมาส่งที่โรงพยาบาลไทรน้อย และได้บอกว่านี้คือโรงพยาบาลชลประทาน ลุงจึงลงจากแท็กซี่และไปถามคนแถวนั้นเขาก็บอกว่านี้คือโรงพยาบาลไทรน้อย ลุงเขาจึงเดินกลับบ้าน ตนจึงถามลุงไปว่ามีค่ารถไหม ลุงก็เอาเงินให้ตนดูมี 100 บาท ตนจึงบอกให้เอาเงินเก็บไว้และตนก็พาลุงไปส่งที่โรงพยาบาลชลประทาน ตอนนั้นลุงมีอาการตัวสั่น เหงื่อเต็มหลัง ตอนในระหว่างที่ตนขับรถ จยย.ไปส่ง ตนคาดว่าลุงคงเดินไกลจึงทำให้มีอาการนี้ หูก็ไม่ได้ยิน ต้องพูดเสียงดัง ตาเป็นต้อลุงไม่ได้ตาบอดแต่เห็นเป็นฝ้า ตนก็ไปส่งถึง โรงพยาบาล ตนก็ได้ของดูข้อมูลลุงเพื่อที่จะไปยื่นเรื่องการรักษาให้
จึงทราบว่าลุงเคยรับข้าราชกาลเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ร.ต.ต. ชาญชัย เทียนศรี ตอนแรกลุงก็ไม่ไว้ใจตนจนตนให้พี่ทหารที่เดินผ่านอธิบายไปว่าคือโรงพยาบาลอะไร พอลุงทราบแล้วตนก็พาลุงไปเดินเรื่องการรักษาให้จนถึงขั้นตอนได้บัตรคิว และเขียนไว้หลังบัตรคิวว่าลุงโดนแท็กซี่ทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลไทรน้อย และตนเป็นคนพามาที่โรงพยาบาลชลประทาน และตนก็ให้เบอร์ติดต่อกับโรงพยาบาลไว้ และตนก็กลับบ้านซึ่งตนึดว่ารถแท็กซี่ที่ไปส่งลุงใจร้ายมากไม่ควรที่จะทำแบบนี้เพราะลุงตาบอดมองไม่เห็นลุกบอกจะไปที่ รพ.ชลประทางแต่กับไปส่งลุงที่ รพ.ไทรน้อย
ภาพข่าว : ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี//รายงาน