จับแล้วหนุ่มขับรถหัวลาก ทำทีปวดท้อง เข้าคลินิก คว้ามีดแทง ผู้ช่วยแพทย์ เจ็บสาหัส สารภาพเครียดปัญหาชีวิต เมียทิ้งไป 2 อาทิตย์ และต้องเลี้ยงดูลูก 2 คน จนหลอน
จากกรณีที่ นายปรเมศวร์ ไชยชาย อายุ 31 ปี ผู้ช่วยแพทย์ประจำคลินิกเวชกรรม หนองขามสวนเสือ เลขที่ 405/18 ม.3 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถูกอาวุธมีดปลายแหลม แทงเข้าที่บริเวณหน้าอก หน้าท้องและแขนซ้าย ฝ่ามือทั้ง 2 ข้างรวมถึงที่บริเวณขาซ้ายอาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จากการตรวจสอบพบอาวุธมีดปลายแหลม 1 เล่ม ทิ้งอยู่ รวมถึงบัตรประจำตัวประชาชนผู้ก่อเหตุทิ้งไว้ชื่อนายธวัชชัย ไม่ลักดี อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 ม.6 ต.กันตรวจระมวล อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 เมษายน 2564 ผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว ที่บริเวณห้องสืบสวน สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ภายหลังจากที่ทราบว่า เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ที่บริเวณลานจอดรถบรรทุก ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขณะนั่งพูดคุยปรับทุกข์กับเพื่อน ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิสาขะ เพ็ชรเกษม ผกก.สภ.หนองขาม พร้อมด้วย พ.ต.ท.เสถียร รัชพงษ์ไทย รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.หนองขาม พ.ต.ต.เดชน์ สงวนตระกูล สารวัตรสืบสวน สภ.หนองขาม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้รีบควบคุมตัวผู้ก่อเหตุในคดีดังกล่าว มาสอบปากคำเพิ่มเติม
ด้านนายธวัชชัย ไม่ลักดี อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุตนเองได้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย จึงได้เดินจากห้องเช่าไปที่คลินิกดังกล่าว ซึ่งระหว่างทางได้แวะ ซื้อมีดทำกับข้าวและของใช้เครื่องครัวด้วย โดยในขณะที่เข้าไปตรวจเช็คอาการที่คลินิก ตนเองปวดท้องอย่างหนักจึงได้นั่งกุมเข่าอยู่ ระหว่างนั้นผู้ได้รับบาดเจ็บก็ได้หันมาถามตนเองว่า เป็นอะไร เป็นอะไร ตอนนั้นไม่รู้ตนเองคิดอะไรอยู่ คว้ามีดในกระเป๋าสะพานที่ซื้อ แทงไปที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายครั้ง ก่อนวิ่งหลบหนีออกมา ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุไปในครั้งนี้ ตนเองเกิดอาการเครียดสะสม เนื่องจากภรรยาที่คบหากันมาทิ้งตนเองไปได้ประมาณ 2 อาทิตย์แล้ว อีกทั้งยังทิ้งลูกไว้ให้ดูแลจำนวน 2 คน จนหลอน ตนเองยอมรับผิดและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงอาวุธมีดและเสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี พยายามฆ่าผู้อื่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป