วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับพันธมิตรออกหน่วยโครงการแว่นแก้วเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จ พระ กะ นิด ถา ธิ ราช เจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 สนับสนุนแว่นตาและให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่แก่ประชาชนในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ระหว่างวันที่ 20 – 21 พฤษภาคม 2568 โดยมีนายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดหน่วยโครงการฯ พร้อมด้วยนายวิโรจน์ อาชวรังสรรค์ หัวหน้าโครงการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อขยายและเสริมความมั่นคงระบบส่งไฟฟ้า กฟผ. นางสุวาพร เสภาศีราภรณ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี นายจิรัญชัย อาทิตย์นพชัย นายอำเภอแก่งคอย หัวหน้าส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานพันธมิตรร่วมงาน ณ ศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
นายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เผยว่า โครงการแว่นแก้วเฉลิมพระเกียรติของ กฟผ. เป็นโครงการที่สืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จ พระ กะ นิด ถา ธิ ราช เจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อช่วยเหลือผู้มีปัญหาด้านสายตา สร้างโอกาสในการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้น ลดอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้มีปัญหาด้านสายตาและทันตกรรมสามารถเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขขั้นพื้นฐานและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายวิโรจน์ อาชวรังสรรค์ หัวหน้าโครงการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อขยายและเสริมความมั่นคงระบบส่งไฟฟ้า กฟผ. กล่าวเสริมว่า กฟผ. ร่วมมือกับพันธมิตรจากทุกภาคส่วนดำเนินโครงการฯ นี้ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของประชาชนมาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปี รวมกว่า 580 ครั้ง ครอบคลุม 70 จังหวัดทั่วประเทศ มอบแว่นตาช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาทางสายตาแล้วกว่า 358,000 อันสำหรับในปี 2568 นี้ กฟผ. มีเป้าหมายประกอบแว่นตารวม 35,000 อัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 70 พรรษา 2 เมษายน 2568 โดยในครั้งนี้ได้สนับสนุนแว่นตาแก่ประชาชนรวม 1,000 ราย และให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ บริการถอนฟัน อุดฟัน รวมถึงขูดหินปูน จำนวน 100 คน
ทั้งนี้ กฟผ. มีแผนก่อสร้างระบบโครงข่ายสายส่งไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ (kV) นครราชสีมา 4 – วังน้อย เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า ระยะที่ 3.1 เพื่อเตรียมความพร้อมระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้มีศักยภาพรองรับการเชื่อมต่อของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก ซึ่งกระจายตัวอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นจำนวนมาก พร้อมรองรับระบบโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน (ASEAN Power Grid) และรองรับการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สอดรับกับพันธกิจของ กฟผ. ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่กับการผลิตและส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อความสุขของคนไทยอย่างยั่งยืน
ภาพข่าว : สมพงษ์ ปานรุ่ง ทีมข่าวจังหวัดสระบุรี//รายงาน