ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรค COVID – 19

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรค COVID – 19 เผยเรือนจำจังหวัดนราธิวาส จะใช้มาตรการ BUBBLE AND SEAL คาดว่าจะควบคุมโรคได้ภายใน 28 วัน ย้ำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงกักตัวอยู่บ้านและทำการตรวจเชื้อ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนเคร่งครัดในการดูแลตัวเอง

วันนี้ (4 เม.ย. 64) ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ตรวจเยี่ยมสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้ประชุมรับฟังแนวทางการดำเนินงานเพื่อควบคุมและบริหารจัดการโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 12 ,
นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค , นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ ร่วมลงพื้นที่ ซึ่งมีนายไพโรจน์ จริตงาม , นายบุญพาศ รักนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมด้วยบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ร่วมต้อนรับ
จากนั้นปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะได้เดินทางไปยังเรือนจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ และตรวจสภาพการระบาดในเรือนจำ ซึ่งได้ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการรองรับการระบาดที่เรือนจำและทางจังหวัดกำหนด ด้วยการ BUBBLE AND SEAL เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID – 19 ในพื้นที่ ไม่ให้ออกมาสู่ภายนอก , SEPARATE ดำเนินการแยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ผู้ที่มีประวัติเสี่ยง กักกันสังเกตอาการในสถานที่แยกที่จัดเตรียมไว้ และ Mobile Field Hospital จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยใช้พื้นที่เรือนจำเก่า เพื่อรองรับผู้ติดเชื้ออาการไม่รุนแรง
ต่อจากนั้น ได้เดินทางไปยังท่าอากาศยานจังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้รับรายงานจากทางสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสเมื่อ 2 วันก่อน พบว่ามีการระบาดของเชื้อ COVID – 19 เกิดขึ้นในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นเรือนจำแห่งใหม่ ในขณะนี้กำลังหาสาเหตุของต้นเชื้ออยู่ โดยการตรวจเบื้องต้นซึ่งตรวจไปแล้ว 300 กว่าคน พบว่ามีผู้ติดเชื้อ COVID – 19 แล้ว 120 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก ทั้งนี้ ระบบเรือนจำเป็นระบบปิดอยู่แล้ว การควบคุมดูแลทำได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญมีสถานพยาบาลภายในเรือนจำ ซึ่งปรับเป็นโรงพยาบาลสนามที่จะคอยดูแลผู้ที่ติดเชื้อเป็นบวก จึงไม่มีปัญหาในการดูแลผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีอาการหนักต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์และโรงพยาบาลใกล้เคียง
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า เรือนจำจังหวัดนราธิวาส เหมาะที่จะใช้มาตรการ BUBBLE AND SEAL ที่มีประสบการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยจะใช้มาตรการนี้เข้ามาคาดว่าน่าจะควบคุมโรคได้ภายใน 28 วัน ซึ่งจะอยู่ในแผนควบคุมทั้งหมดโดยนักโทษใหม่ก็จะมีแดนแยกอยู่แล้ว และนักโทษที่จำหน่ายก็จะเข้าไปอยู่ใน Local Quarantine อีก 14 วัน จะช่วยควบคุมไม่ให้มีการแพร่เชื้อต่อไปได้ ในส่วนของวัคซีนจะมีการฉีดวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำทุกคน และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลด้านสาธารณสุข ซึ่งต้องมีการสัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูง 1,000 กว่าคนกักตัวอยู่บ้าน และทำการตรวจเชื้อ ซึ่งสถานการณ์การติดเชื้อ COVID – 19 ยังพบอยู่หลายแห่งอาจเกิดจากการหละหลวมในการป้องกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งควรงดกิจกรรมต่างๆ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนเคร่งครัดในการดูแลตัวเอง และลดการชุมนุมในที่มีคนจำนวนมาก และระมัดระวังตัวเอง เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 ขึ้นอีก

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

Related posts