ทหารพรานนาวิกโยธิน ลาดตระเวนพบอาวุธสงครามซุกป่า
ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธิน ที่2 จัดชุดปฏิบัติการ ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจภูธร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ลาดตระเวนทางเท้าตามแนวชานแดนไทยกัมพูชา ในเขตอำเภอสอยดาว หลังรับรายงานจากข่าวกรองของหลายหน่วยงานว่าจะมีการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายเข้าประเทศไทยตามแนวชายแดน จนกระทั่งพบอาวุธสงครามจำนวนมากซุกซ่อนในป่าบรรจุห่อหุ้มอย่างดีลักษณะเตรียมขนย้าย คาดน่าจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม
เมื่อเวลา20.00 น ของวันนี้22 มค67 ที่ ที่ทำการชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่2นาวาเอก ปรัชญา โพธิ์ย้อย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จันทบุรี นายมงคล เลิศพรทิพย์ นานอำเภอสอยดาว นาวาเอก เอกรินทร์ จิรวงศ์นุสรณ์ หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่2 พันตำรวจเอกกมล โอศิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจสะตอนพันตำรวจเอกวีรยศ การุณยธร รอง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง2 รักษาราชการแทน ผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี พันตำรวจโทศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จันทบุรี ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดอาวุธสงคราม 36 กระบอกพร้อมซองกระสุนและกระสุนจำนวนหนึ่ง
สืบเนื่องจาก การบูรณาการด้านการข่าวของหน่วยงานความมั่นคงร่วมกับชุดปฏิบัติการข่าวชุดขาวสวนราชการในพื้นที่ได้ติดตามข้อมูลข่าวสารการกระทำผิดกฎหมายทั้งปวงอาทิกระบวนการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายลักลอบค้าอาวุธสง ลักลอบขนของเลี่ยงภาษีโดยได้ดำเนินการตั้งแต่ห้วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาทำให้สามารถทราบข้อมูลซึ่งหน่วยได้ประเมินสถานการณ์และติดตามโดยได้เพิ่มมาตรการการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบและจัดชุดซุ่มเฝ้าตรวจโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดจึงนำมาสู่การตรวจยึดอาวุธสงครามในครั้งนี้โดยการปฏิบัติการครั้งนี้ได้ ประสานกันระหว่าง เรือเอกคมสัน บริสุทธิ์ ผบ.ร้อย ทพ.นย.523 ฐานบ้านซับตารี เรือโท วัชรพล อินใจ ผบ.ร้อย ทพ.นย.526 ฐานบ้่านบ่อบาง นำกำลังพลในสังกัดและหน่วยร่วมทำการลาดตระเวนในแนวเข้าบรรจบกัน ระหว่างสองกองร้อย จนกระทั่งมาถึงจุด หมู่7 บ้านหนองบอน ตำบลทุ่งขนาน อำเภอสอยดาว ชุดปฏิบัติการลาดตระเวน ได้ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยห่อหุ้มด้วยกระสอบปุ๋ยพันเทปกาวอย่างหนาแน่น 5 ถุง มีเศษหญ้าปกคลุมบังตา จึงเข้าตรวจสอบ พบเป็นอาวุธปืนสงครามพร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวนมาก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมแกะตรวจสอบ พบ เป็นอาวุธปืน M16-A1 สภาพพร้อมใช้งานจำนวน 15 กระบอก อาสุธปืน อาร์ก้า(AK47) จำนวน 22กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม.(M 203) จำนวน1 กระบอก ชิ้นส่วนปืนกล 12.7 มม.จำนวน ลำกล้องและฐานตั้ง 1 ชิ้น ลูกกระสุนปืน 12.7 จำนวน510 นัด ซองบรรจุกระสุน อาร์ก้า AK47 จำนวน 20 ซอง แต่ไม่พบ ผู้ครอบครอง จึงตรวจยึดนำไปที่ชุดควบคุมทหารพรานเพื่อนำตรวจสอบขยายผลในกระบวนการพิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบที่มาของอาวุธสงครามดังกล่าว ตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ด้าน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี กล่าวว่า จากการบูรณาการด้านข้อมูลข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติการร่วมกันในครั้งนี้ ถือเป็นการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิผล มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารในเชิงลึกระหว่างหน่วยงานในพื้นที่วางแผนระดมกำลังพลปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องจนสามารถนำมาซึ่งการตรวจยึดอาวุธสงคราม ในครั้งนี้ ยังคงต้องบูรณาการร่วมกันในส่วนของการเฝ้าระวังในเรื่องของการลักลอบกระทำการผิดกฎหมายในหลายรูปแบบ ต่อไป
ภาพ/ข่าว ชูชาติ โพธิ์ทอง จันทบุรี