“หมอวรงค์” ขึ้นเวที “สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย” ตอกย้ำคนอีสานรักในสถาบันอย่างพร้อมเพรียง พร้อมระบุม๊อบไปลำบาก ยกระดับความก้าวร้าวและต่อว่าสถาบันชัดเจน วอนตำรวจจริงจังผิดกฎหมายเอาผิดอย่างเข้มงวดทันที แง้มไต๋ กลุ่มผู้ชุมนุมชักศึกเข้าบ้านหลังพบต่างชาติหนุนงบช่วยหลายฝ่าย
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 27 มี.ค.2564 ที่โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น กลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน ได้จัดกิจกรรมเสวนาในหัวข้อสถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย โดยมีการเชิญวิทยากรมาร่วมเสวนาและร่วมแลกเปลี่ยนประกอบด้วย นพ.วรงค์ เดชวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี,ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์จากสถาบันทิศทางไทยและ ดร.ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยมีเครือข่ายกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน ทั้งจากในเขต จ.ขอนแก่น และ จ.ใกล้เคียงเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก
นพ.วรงค์ เดชวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี กล่าวว่า ขณะนี้ความเคลื่อนไหวและความชัดเจนของกลุ่มคนที่ออกมาปกป้องสถาบันนั้นเริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะที่ขอนแก่น ที่เป็นต้นแบบให้กับอีกหลายจังหวัดได้ลุกขึ้นมาต่อสู้และปกป้องสถาบันกษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทั้งชาติ และการจัดเวทีเสวนาฯวันนี้ ยอมรับว่าขอนแก่นนั้นตื่นตัว เพราะการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นล้มล้างสถาบันกษัตริย์อย่างชัดเจน ดังนั้นแนวทางการต่อสู้ของเราคือการใช้ความจริงและข้อกฎหมาย ซึ่งเป็น 2 แนวทางหลักที่ดำเนินการร่วมกันอยู่ในขณะนี้
“ จะเห็นได้ว่าม็อบวันนี้เดินลำบาก ที่ผ่านมาจะใช้ความรุนแรง แต่พอมีความจริงจากคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้วันนี้ม็อบมาแสดงออกในแนวทางก้าวร้าว และล้มล้างสถาบันชัดเจน โดยเฉพาะกับการที่นักวิชาการและกลุ่มแกนนำที่ออกมาแสดงออกถึงการล้มล้าง ซึ่งต้องยอมรับว่าสถาบันกษัตริย์ของไทยเรานั้นแตกต่างจากสถาบันกษัตริย์ฝรั่งเศสที่แกนนำนำมายกตัวอย่างและนำมาพูดคุย ดังนั้นกฎหมายตามมาตรา 112 จึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการเอาผิดกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว”
นพ.วรงค์ กล่าวต่ออีกว่า จะเห็นได้ว่าการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นมีทั้ง 7 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มนักศึกษาและกลุ่มคนรุ่นใหม่,กุลุ่มอาจารย์และนักวิชการ,กลุ่มการเมือง,กลุ่มพรรคการเมือง,กลุ่มพรรคแนวร่วม,กลุ่มสื่อและสุดท้ายคือกลุ่มต่างชาติและเอ็นจีโอ ซึ่งวันนี้เราต้องพูดคุยกันและเปิดประเด็นในกลุ่มกลุ่มทุนต่างชาติและเอ็นจีโอ ให้มากขึ้น เพราะถือเป็นการชักศึกเข้าบ้านที่ชัดเจน โดยมี 4 หน่วยงานหลักที่ทุกคนก็รู้ว่าเป็นใครที่ทำงานให้กับคนกลุ่มนี้อยู่ดังนั้นถึงเวลาที่ทุกคนต้องออกมาปกป้องและนำเสนอความจริงของกลุ่มคนที่ชักศึกเข้าบ้านให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย