“ทองเปลว” ติวเข้ม หน่วยงานเกษตรฯ ทั่วอีสาน เดินหน้าโครงการรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ห้ามสะดุด พร้อมระบุผลไม้ไทยปีนี้ส่งออกได้หลังนานาประเทศมั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมห่วงเขื่อนลำปาว หลังพบมีระดับน้ำเก็บกักน้อย สั่งการ ชป.บริหารจัดการน้ำอย่างละเอียด คาดปีนี้ฝนเร็ว เติมน้ำได้ทันทุกพื้นที่
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 มี.ค.2564 ที่สำนักงานชลประทานที่ 6 ขอนแก่น นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือ กษ. เป็นประธานการประชุมแนวทางการขับเคลื่อนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำแนวทางการดำเนินงานให้แก่เกษตรและสหกรณ์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระดับภูมิภาค รวมทั้งทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรปละสหกรณ์ทุกหน่วยงานที่ต้องดำเนินการร่วมกันเป็นทีม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปถึงในระดับพื้นที่สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ใน 7 ด้านหลักซึ่งทั้งหมดเป็นงานเร่งด่วนที่ทุกหน่วยงานจะต้องทำทันที ประกอบด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ,โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ,การปฏิรูปการเกษตรมูลค่าสูง , โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่ , การบริหารจัดการช่องทางการตลาดของผลไม้ในพื้นที่ , การขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม และ การขับเคลื่อน ศพก. อย่างเข้มแข็ง
“เกษตรแปลงใหญ่ในภาคอีสานของเรานั้นสู้ได้ ซึ่งภาพรวมทั้งประเทศมีเกษตรแปลงใหญ่มากกว่า 7,000 แปลง ในจำนวนนี้มากถึงร้อยละ 40 จัดอยู่ในระดับเกรดเอ ซึ่งในภาคอีสานมีแปลงเกษตรเกรดเอ นั้นเยอะมาก ดังนั้นจากนี้ไป การยกระดับเกษตรแปลงใหญ่ ให้มีการพัฒนา และก้าวสู่การจัดลำดับแปลงการเกษตรที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เพราะเกษตรทำ พาณิชย์ขายเป้นสิ่งที่เราจะทำงานร่วมกันและเดินไปด้วยกัน ขณะเดียวกันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบด้านการส่งออกสินค้าเกษตรในปีที่ผ่านมา ซึ่งมาจากอุปสรรคด้านการขนส่งและแรงงาน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณภาพสินค้าเกษตรของไทย เนื่องจากทั่วโลกให้ความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบความปลอดภัย การรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร และคุณภาพของสินค้าเกษตรของไทยแต่อย่างใด”
นายทองเปลว กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ มีแนวโน้มการส่งออกเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ผ่านมา ดังนั้นปีนี้เกษตรกรผู้ส่งออกจะสามารถค้าขายได้ตามปกติ คู่ขนานกับการจำหน่ายภายในประเทศ อย่างไรก็ตามจากการตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคอีสานพบว่า ขณะนี้ที่น่าเป็นห่วงคือเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากมีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 29% ซึ่งได้กำชับให้สำนักงานชลประทานที่ 6 บริหารจัดการน้ำอย่างละเอียด ประกอบกับปีนี้ฝนจะตกเร็ว ก็จะเติมน้ำในแหล่งน้ำต่างๆได้ในสัดส่วนที่เพียงพอต่อการบริหารจัดการในภาพรวมอีกด้วย