ตำรวจขอนแก่น เร่งตามตัวนักเรียนยกพวกตีกัน 20 ต่อ 1 มาดำเนินคดี

ตำรวจขอนแก่น เร่งตามตัวนักเรียนยกพวกตีกัน 20 ต่อ 1 มาดำเนินคดี ตามกฎหมาย ขณะที่พ่อเด็กที่โดนรุมทำร้ายยืนยันต้องดำเนินคดีให้เป็นแบบอย่างเพื่อให้เกิดการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยที่อื่นอีก

 

จากกรณีโซเชียลแชร์คลิปนักเรียนชายชั้น ม.2และม.3 ยกพวกทะเลาะวิวาทกันหลังสถานีรถไฟอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น โดยในคลิปเป็นภาพนักเรียนชายหลายสิบคนรุมทำร้ายนักเรียนชายคู่อริ และมีนักเรียนชาย 4 คนวิ่งหลบหนีออกมาจากกลุ่มทะเลาะวิวาทได้ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

 

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่26 มี.ค. 2564 ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านคุ้มแสงทอง ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น (โรงเรียนบ้านไผ่แสงทองประชาสรรค์ ) นายทองอินทร์ ป้องทัพไทย อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121ม.8 บ้านเมืองเพีย ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น บิดาและมารดา พาน้องกิม (นายชลธาร ป้องทัพไทย) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 ซึ่งถูกกลุ่มนักเรียนชายประมาณ 20 คน รุมทำร้ายร่างหาย เหตุเกิด ใกล้กับบ้านพักของเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประทเศไทย ประจำสถานีรถไฟบ้านไผ่ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานที่ผ่านมา ( 25 มี.ค.) เดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ผู้อำนวยการไปราชการจึงพบเพียง นายสุทธิพรรณ รัตนบุญทา ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ดังกล่าว เพื่อแจ้งให้ทราบว่า น้องกิม ซึ่งเป็นบุตรชายถูกนักเรียนในโรงเรียนดังกล่าวรุมทำร้ายร่าวกาย ซึ่งทางผู้ช่วยอำนวยการโรงเรียน แจ้งว่า โรงเรียนทราบเรื่อง หลังจากมีคลิปแชร์ในโซเชียลแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาตัวนักเรียน เพื่อนำส่งให้ตำรวจสภ.บ้านไผ่

จากนั้นบิดาจึงพาลูกชายเดินทางไปยังสภ.บ้านไผ่ ซึ่งพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บ้านไผ่ ได้นำตัวนักเรียนชายจากโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 จำนวน 20 คน มาทำการสอบสวนที่สภ.บ้านไผ่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดยังได้นำตัวนักเรียนชายจากโรงเรียนบ้านไผ่แสงทองประชาสรรค์ จำนวน 5 คน เดินทาวมาถึงสภ.เมืองบ้านไผ่ เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสอบสวนนักเรียนทั้งหมด รวมถึงการตรวจปัสสาวะ ทำประวัติทุกคนไปพร้อมๆกัน

 

ขณะเดียวกัน น้องกิม ยังพาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่จุดเกิดเหตุด้วย โดยยืนยันว่า ไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกับกับเพื่อนๆในโรงเรียนแต่อย่างใด ส่วนการเดินทางมายังจุดเกิดเหตุตามที่นายเต้นัด ก็เพื่อคุยกันให้จบว้าตัวเองไม่มีปัญหากับใคร แต่ยังไม่ได้คุยเมื่อมาถึงก็ถูกรุมทำร้าย ส่วนเพื่อนอีก 4 คน วิ่งหนีเอาตัวรอดไปได้ หลังเกิดเหตุจึงได้โทรศัพท์บอกพี่สาวให้ทราบเรื่อง ขณะนี้เบ้าตาขวาเขียวช้ำ ศีรษะบวมช้ำ แขนขา มีรอยฟกช้ำ และขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้อยากมีเรื่องกับเพื่อนๆ ที่ไป เพราะจะไปคุยกัน ไม่ได้ไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายใคร

 

พ.ต.อ.พิชัยภูษิส จารุพงศ์ ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังทราบว่ามีเหตุการณ์นักเรียนรุมทำร่ยร่างกายกันตามคลิปที่แชร์ในโซเชียล ก็สั่งการให้ชุดสืบสวนแบ่งกำลังกันออกเป็น 3 ชุด คือชุดที่ตรวจสอบวงจรปิด รวบรวมหลักฐานต่างๆในจุดเกิดเหตุ อีก 2 ชุดลงพื้นที่โรงเรียนทั้ง 2 แห่ง ประสานผู้อำนวยการและครูฝ่ายปกครอง เพื่อเอาตัวนักเรียนที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุมาสอบสวน และ จากการสอบสวนน้องกิมทราบว่า ในโรงเรียนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนหรือรุ่นพี่แต่อย่างใด ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไปส่งเพื่อนที่โรงเรียนมหาไถ่ศึกษา จากนั้นก็ขับขี่รถกลับมาที่โรงเรียน ขณะขับผ่านประตูเข้าโรงเรียนที่ประตู2 มีกลุ่มนักเรียนชายรวมตัวกันอยู่ แต่ไม่ได้จอดรถ และขับขี่รถผ่านไป

“กลุ่มนายเต้ จึงขี่รถตามประกบ และบังคับให้จอดรถ จึงจอด นายเต้บอกว่า ถ้ามึงไม่อยากมีปัญหา มึงต้องไปเคลียร์กันให้มันจบๆที่หลังสถานีรถไฟบ้านไผ่ น้องกิม จึงรับปากว่าจะตามไป แต่ก่อนจะไปตามที่นายเต้นัดนั้น น้องกิม ได้ขับขี่รถกลับไปหาเพื่อนๆที่โรงเรียน เล่าเรื่องให้เพื่อนๆฟัง เพื่อน 4 คน จึงอาสา เดินทางไปในที่เกิดเหตุด้วย เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ ก็เห็นนายเต้และกลุ่มเพื่อนทั้งจากโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5และโรงเรียนบ้านไผ่แสงทองประชาสรรค์ รวมแล้วประมาณ 20 คน ยืนรวมตัวรออยู่ก่อนแล้ว จึงจอดรถเพื่อจะพูดคุย แต่ยังไม่ได้คุยก็ถูกนักเรียนจากโรงเรียนบ้านไผ่แสงทองประชาสรรค์ เข้ารุมทำร้าย โดยมีนายเต้ ช่วยด้วย”

 

ผกก.สภ.บ้านไผ่ กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังการสอบสวน ทราบตัวคนที่ลงมือทำร้ายร่ายกายน้องกิมแล้ว10 คน ส่วนที่เหลือคือคนที่ร่วมในเหตุการณ์เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ลงมือ ซึ่งคนที่ลงมือจะถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนน้องกิมคนเจ็บนั้น ผู้ปกครองจะพาไปตรวจร่างกายซ้ำอีกครั้งที่ รพ.บ้านไผ่ จากนั้นก็จะต้องให้ปากคำกับทีมสหวิชาชีพตามขั้นตอนต่อไป ส่วนสาเหตุที่มีการทำร้ายร่างกายกันในครั้งนี้ สรุปว่า เกิดจากฝ่าย น้องกิมขับขี่รถผ่านแล้วมองหน้าอีกฝ่าย อีกฝ่ายไม่พอใจ จึงต้องการเคลียร์ใจกัน แต่เพื่อนต่างโรงเรียนไม่เข้าใจ เมื่อเจอหน้าน้องกิม จึงเข้ารุมทำร้าย ตามคลิปที่พลเมืองดีถ่ายภาพเอาไว้ได้

ด้าน นายทองอินทร์ ป้องทัพไทย อายุ 47 ปี บิดาน้องกิม กล่าวว่า หลังทราบเรื่องว่าลูกชายถูกทำร้างร่างกาย จึงรีบพาลูกชายมาแจ้งความกับตำรวจสภ.บ้านไผ่ และพาส่งรพ. ทันทีเพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าเป็นเรื่องต่อสู้ตัวต่อตัวคือวิสัยขอลูกผู้ชาย แต่การรุมทำร้ายเช่นนี้ หากเกิดพลาดพลั้งถึงขั้นเสียชีวิตใครจะรับผิดชอบ อยากให้ตำรวจมีการสืบสวนสอบสวน และดำเนินคดีตามกฎหมาย และฝากถึงผู้ปกครองว่า ไม่ต้องมาขอโทษ แต่ขอให้ทุกๆคนช่วยอบรมสั่งสอนลูกหลานตัวเอง ว่าอย่าก่อเหตุขึ้นอีก และแม้ว่าจะไม่ได้ก่อเหตุในโรงเรียนก็ตาม โรงเรียนก็ควรมีมาตรการที่จะลงโทษนักเรียน เพื่อเป็นการป้องปราม ไม่ให้ก่อเหตุซ้ำขึ้นได้อีก และขอบคุณตำรวจสภ.บ้านไผ่ ที่ทำการหาตัวนักเรียนชายที่ร่วมกันก่อเหตุมาได้ทั้งหมด ถือว่าจัดการเรื่องได้อย่างรวดเร็ว

Related posts