เกิดเหตุผู้ดูแลจัดระเบียบร้านค้าหน้าวัด ถูกนักข่าวกร่างไม่ยอมตั้งร้านค้าให้เป็นระเบียบ เจ้าอาวาสออกมาขอร้องให้ทำตามระเบียบเพื่อป้องกันการจราจรติดขัด กลับชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ ตกบ่ายย่องเงียบไปแจ้งความกล่าวหาถูกพระทำร้ายร่างกาย ขณะที่ชุดสืบตรวจค้นรถยนต์พาหนะพบอาวุธปืนซุกซ่อน เลยถูกแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืน
สายวันนี้ 27 ก.ย.65 น.ส.จิราพร เหนี่ยวองอาจ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147/1 หมู่ 2 ต.หาดเจ้าสำราญ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ตนตั้งร้านจำหน่ายหอยนางรมอยู่ที่บริเวณริมชายหาด หน้าวัดสมุทธาราม หมู่ 4 ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ได้มีชายทราบชื่อต่อมาคือนายบุญเลิศ พิณทอง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 6 ต.โพไร่หวาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักวีโก้ตอนครึ่งสีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บธ 555 เพชรบุรี บรรทุกมะพร้าวอ่อนเข้ามาจอดและตั้งร้านจำหน่ายมะพร้าวที่หน้าศาลาพักผ่อนริมถนนหน้าวัด ตนซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสให้คอยดูแลจัดระเบียบร้านค้าที่บริเวณหน้าวัด ได้เข้าไปขอความร่วมมือกับนายบุญเลิศให้ช่วยขยับร้านออกไปตั้งที่ข้างศาลา เพื่อที่จะให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนและการจราจรจะได้ไม่ติดขัด แต่นายบุญเลิศไม่ยอมย้ายร้านกลับอ้างรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนและขู่จะให้กรมเจ้าท่ามาเอาที่วัดคืน ตนจึงไปแจ้งเจ้าอาวาสให้ออกมาไกล่เกลี่ย จึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงถึงขนาดที่นายบุญเลิศได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่และมีผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินทางมากับนายบุญเลิศได้ตะโกนบอกให้ยิงเลย
ด้านพระอธิการฐานันดร ประภาสิริ เจ้าอาวาสวัดสมุทธาราม กล่าวว่า อาตมาได้จัดระเบียบพื้นริมชายหาดที่หน้าวัดเพื่อให้เป็นสถานที่พักผ่อนของญาติโยม และให้มีการตั้งร้านขายของโดยทางวัดไม่ได้เก็บค่าเช่าที่แต่อย่างใด ตลอดระยะเวลานายบุญเลิศมาขายของมักจะมีปัญหากับผู้ประกอบการร้านค้าอยู่เป็นประจำ โดยเหตุดังกล่าว หลังจากโยมมาแจ้งให้ทราบอาตมาก็ออกไปชี้แจงและให้นายบุญเลิศทำตามระเบียบที่จัดไว้ แต่นายบุญเลิศไม่ยอมทำตาม อาตมาจึงไม่ให้ขายและให้ย้ายร้านออกไปจากบริเวณวัดในทันทีทำให้นายบุญเลิศไม่เกิดความไม่พอใจจนเกิดการโต้เถียงกับอาตมาอย่างรุนแรง ขณะที่พระสมภพ คชพันธ์ พระลูก ที่อยู่ในเหตุการณ์ เดินเข้าไปหานายบุญเลิศเพื่อช่วยอาตมาเจรจา แต่นายนายบุญกลับพยายามจะชักอาวุธที่พกออกมา พระสมภพ จึงเดินเข้าไประชิดตัวและใช้มือปกป้องเพื่อป้องกันตัว จากนายบุญเลิศได้ชักอาวุธปืนออกมาอีกครั้งอาตมา จึงบอกว่าพกพาอาวุธปืนมาในที่สาธารณผิดกฎหมายและจะแจ้งความดำเนินคดีทำให้นายบุญเลิศขึ้นรถและขับหลบหนีไป
ด้านพระสมภพ กล่าวว่าอาตมายืนดูพฤติกรรมของนายบุญเลิศที่ยืนเถียงกับเจ้าอาวาสอย่างไม่เคารพอยู่นานทนไม่ไหว จึงเดินออกไปเพื่อห้ามปราบให้หยุดพฤษติกรรมดังกล่าวแต่เห็นนายบุญทำท่าจะชักปืนที่เอวขึ้นมาอาตมา จึงเข้าไปปัดป้อง เพื่อปัองกันตัวโดยที่ไม่มีเจตนาจะทำร้ายนายบุญแต่อย่างใด
ต่อมาช่วงบ่ายวันเกิดเหตุนายบุญเลิศได้เดินทางไปยัง สภ.บ้านแหลม เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าตำรวจขอให้ดำเนินคดีกับพระสมภพ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ขณะที่แจ้งความอยู่นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านแหลมได้เข้าไปขอตรวจค้นรถของนายบุญเลิศได้พบอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อ CZ 75 COMPACT ขนาด 9มม.ซุกซ่อนที่คอนโซนเก็บสิ่งของภายในรถ1กระบอก และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบประวัติพบเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวอาวุธปืนและทำลายทรัพย์สินรวม 4 คดี
เบื่องต้นจ้าหน้าตำรวจได้แจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนติดตัวในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว จากนั้นนายบุญเลิศได้ขอประกันตัวออกไปในวงเงินประกัน 50,000 บาท
ต่อมาเวลา 13.00 น.วันที่ 26 กันยายน 2565 พันเอก สนอง ธัญญานนท์ หัวหน้าฝ่ายกิจการมวลชน กอ.รมน จังหวัดเพชรบุรี นายสุขพิชัย เชาวกุล นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการและกิจการคณะสงฆ์ พระมหาวิชัย ดร. พระวิญญาธิการ จังหวัดเพชรบุรี เดินทางมายังวัดสมุทธาราม หลังจากได้รับการร้องเรียน จากนายบุญเลิศถึงกรณีดังกล่าว ขณะที่ทำการพูดคุยถึงสาเหตุดังกล่าว นายบุญเลิศได้ขับรถยนต์ Toyota Fortuner ติดป้ายสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่หน้ารถ เข้ามาที่วัดเพื่อชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่อ้างว่าตนไม่ได้ทำพฤติกรรมอย่างที่ถูกกล่าวหา ส่วนสาเหตุที่ชักอาวุธปืนขึ้นมาเพื่อต้องการป้องกันตัว เนื่องจากเกรงจะถูกรุมทำร้าย และขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะพระสงฆ์ในวัดทุกองค์ เนื่องจากสงสัยจะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งพระสงฆ์ยินดีให้ตรวจปัสสาวะทุกองค์แต่หากไม่พบสารจะดำเนินการฟ้องกลับ ทำให้นายบุญเลิศนิ่งเฉยและไม่ให้มีการตรวจสารแต่อย่างใด.